มหัศจรรย์แห่งชีวิต
มนุษย์เราเอ๋ยเกิดมาชีวิตช่างสั้นนัก จะอยู่กันด้วยความทุกข์ไปไย จงเลือกที่จะปฏิบัติตนเป็นคนดี หันมามองโลกในแง่ดี สร้างความคิดดีๆ และความสุขให้เกิดกันกับตัวเรากันเถิด พร้อมกันหรือยังคะถ้าพร้อมแล้วมาปฏิบัติตนตามหลักคำแนะนำของพระอาจารย์ ว.วชิระเมธี กันดังนี้นะคะ
๑. ความคิดดีๆ เป็นที่มาแห่งความสุข เมื่อเรามีความคิดดีๆ โลกก็จะดีตามอย่างที่เราคิด “โลกเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราใส่แว่นตาสีอะไรมองโลก หากมองโลกในแง่ดี ชีวิตมีแต่รื่นรมย์ หากมองโลกในแง่ร้าย ชีวิตมีแต่ความวุ่นวายและทุกข์ระทม
๒. ปัญญาดีย่อมมีความสุข คนมีปัญญาย่อมใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาเพื่อให้พ้นทุกข์ ดังนั้น สำหรับคนมีปัญา วิกฤตอยู่ไหน ปัญญาอยู่นั่น ส่วนคนด้อยปัญญา โอกาสอยู่ไหน วิกฤตอยู่นั่น จงเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา เปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นอุปกรณ์
๓. ชีวิตของคนดีคือชีวิตที่มีความสุข ดังท่านว่า ดอกไม้หอมได้บางดอก แต่มนุษย์หอมได้ทุกคน หากเขาเป็นคนดี กลิ่นดอกไม้แม้หอมขนาดไหน ก็หอมได้แต่ตามลมเท่านั้น ส่วนกลิ่นความดีของคนนั้น หอมทวนลม ฟุ้งกระจายไปในทิศทั้งสี่ ดอกไม้ผลิบานแล้วไม่นานก็ร่วงโรย แต่ความดีของคนนั้น สถิตเป็นนิรันดร์เหนือกาลเวลา
๔. ปฏิสัมพันธ์ดีก็มีความสุข คือการเลือกคบมิตร โลกนี้มีมิตรอยู่ ๓ ประเภทคือ บาปมิตร เพื่อนชั่ว จงอย่าคบ กัลยาณมิตร เพื่อนดี จงคบ พันธมิตร เพื่อนที่ผูกพันกันด้วยผลประโยชน์ จงระวัง
๕. ทำงานดีก็มีความสุข คนจำนวนมากเป็นทุกข์ขณะทำงาน แต่เบิกบานเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ โดยหารู้ไม่ว่าในหนึ่งสัปดาห์มีเสาร์-อาทิตย์แค่สองวัน จะเป็นสุขขณะทำงาน จงเบิกบานขณะหายใจ
๖. มองโลกในแง่ดี ชีวิตมีความสุข ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด ใครทำความเข้าใจได้ลึกซึ้งคนนั้นจะไม่ทุกข์ และจะไม่หวั่นไหวในความผันแปรของชีวิต และเมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้นมา เราก็จะอุทานอยู่เสมอว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง”
๗. ครอบครัวดีทวีความสุข ครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญของชีวิต บุตรธิดาคืออนุสาวรีย์ของพ่อแม่ หากลูกเป็นคนดีอนุสาวรีย์ของพ่อแม่ก็งดงาม หากลูกเลวทราม อนุสาวรีย์ของพ่อแม่ก็อัปลักษณ์