“วังน้ำเขียว เที่ยวเมืองกาญจน์” สุขสำราญรับปีท่องเที่ยววิถีไทย


      00223355897การเปิดโลกทัศน์สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆที่ท้าทายจากการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ช่วยเติมเต็มให้ชีวิตของเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ชดเชยช่วงเวลาส่วนใหญ่ใน ๓๖๕ วันที่หมดไปกับการทำงานอันเร่งรีบและแข่งขันอย่างสูงจนลืมพักผ่อนหย่อนใจ หลายปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวนับเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศไทยซึ่งนำเงินตรามหาศาลเข้าสู่ประเทศ ข้อมูลจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในปี ๒๕๕๗ คาดว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวน ๓๐.๒๗ ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน ๑.๓๔๔ ล้านล้านบาท


      ยังจำได้ขึ้นใจสำหรับคำขวัญ “เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้” ที่ ททท. หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รณรงค์เชิญชวนให้คนไทยไปเที่ยวสถานที่ต่างๆอันสวยงามในเมืองไทยที่มีอยู่มากมาย และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ล่าสุดรัฐบาลได้กำหนดให้ปีนี้เป็นปีท่องเที่ยววิถีไทย ๒๕๕๘ (2015 Discover Thainess) และเป็นวาระแห่งชาติ โดยเมื่อค่ำวันพุธที่ ๑๔ มกราคมที่ผ่านมา ททท.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยววิถีไทย ด้วยการจัดให้มีขบวนพาเหรดและการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ตระการตา เส้นทางจากแยกปทุมวัน ผ่านแยกราชประสงค์ มุ่งหน้าสู่สวนลุมพินี รวมทั้งจัดงานเทศกาลเที่ยวไทย ๒๕๕๘ ระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ ที่สวนลุมพินี ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง สร้างบรรยากาศที่คึกคักรับปีท่องเที่ยววิถีไทยได้เป็นอย่างดี


      หลายคนชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็มักสัญจรท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีค่าน่าจดจำตลอดไป ในขณะที่อีกหลายคนมีข้อจำกัดทางด้านภาระหน้าที่การงานที่รัดตัว ทำให้ไม่มีเวลาเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน อย่างไรก็ตาม ความสุขจากการท่องเที่ยวเมืองไทยเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยเงินตราราคาแพง ขอเพียงมีโอกาส เวลาว่างที่ตรงกัน และสภาพร่างกายเอื้ออำนวยก็สามารถเก็บเกี่ยวความสุขจากการท่องเที่ยวได้แล้ว


      โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆบ่อยครั้งนัก ส่วนใหญ่จะเดินทางไปเที่ยวหลังจากที่เสร็จภารกิจหน้าที่การงานที่รับผิดชอบ สำหรับประสบการณ์ตรงในเรื่องการท่องเที่ยวที่ได้ไปสัมผัสมาในช่วงก่อนและหลังปีใหม่ ๒๕๕๘ ได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวสองแห่งสองบรรยากาศที่แตกต่างกันท่ามกลางลมหนาว ได้แก่ วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และน้ำตกไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งสร้างความประทับใจที่ไม่ต่างกันเลย “วังน้ำเขียว” เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาหรือโคราช เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อแห่งหนึ่งของเมืองไทย ภายใต้คำขวัญ“วังน้ำเขียวเมืองหนาว ภูเขามากมาย น้ำตกหลากหลาย ผลไม้นานาพันธุ์ แดนสวรรค์เมืองในหมอก” วังน้ำเขียวนับเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่ติดอันดับยอดนิยม เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่แพ้ต่างประเทศ พรั่งพร้อมด้วยรีสอร์ทและร้านอาหารจำนวนมากรองรับนักท่องเที่ยว เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนทั้งกายและใจ ท่ามกลางบรรยากาศชวนฝัน อากาศเย็นสบาย ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด ผู้ที่มาเยือนวังน้ำเขียวจึงไม่พลาดที่จะบันทึกภาพสวยๆไปอวดใครต่อใครได้อย่างน่าภูมิใจว่าครั้งหนึ่งเคยมาเที่ยวที่นี่ หลายคนติดใจในเสน่ห์ของวังน้ำเขียวถึงกับต้องมาเยือนอีกครั้ง และเล่าขานถึงความประทับใจในความงดงามเกินจะบรรยาย ส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ไปเที่ยวชม เช่น จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม A Cup of Love ฟลอร่า พาร์ค ฯลฯ ซึ่งยังอยู่ในความทรงจำไม่รู้คลาย


      ส่วนน้ำตกไทรโยค จ.กาญจนบุรี นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาเยือนเช่นกัน เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติของไทย ซึ่งได้รับการประกาศตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปี ๒๕๒๓ มีพื้นที่ร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์ป่าและปลาชนิดต่างๆ รวมทั้งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกด้วย น้ำตกไทรโยคใหญ่หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าน้ำตกเขาโจน มีความสวยงามของน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสู่แม่น้ำแควน้อย เป็นภาพที่สวยงามจริงๆ ทำให้นึกถึงบทเพลง “มนต์ไทรโยค” ของวงดิอินโนเซนต์ ขึ้นมาทันที


      ความสุขความประทับใจจากการท่องเที่ยวนั้นจะตราตรึงอยู่ในใจเสมอ และคงต้องหาโอกาสไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในไทยให้มากขึ้น “เก็บมาแต่ภาพถ่าย ทิ้งไว้แค่ความทรงจำ (งดทิ้งขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม)” คือข้อคิดดีๆที่ได้จากการท่องเที่ยวทั้งสองครั้ง ขอให้ทุกท่านมีความสุขจากการท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยววิถีไทย ๒๕๕๘

 

สุรเดช พันธุ์ลี หัวหน้ากลุ่มภารกิจสารนิเทศ

ศูนย์สื่อสารองค์กร จุฬาฯ